เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่บ้านคูสระใหญ่ ต.ไผ่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ มีการแอบลักลอบเล่นการพนันบั้งไฟและจุดบั้งไฟขนาดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่บริเวณหน้าหมู่บ้านพบว่ามีการเก็บบัตรขายตั๋วเข้าชมงานในราคาคนละ 100 บาท และค่าบริการที่จอดรถ จำนวน 100 บาท เมื่อเข้าไปในงานพบมีป้ายข้อควมระบุว่า “ส่งเสริม soft power ช่วยกันผลักดันประเพณีงานบุญบั้งไฟ อำเภอราษีไศล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ” และมีการปักร่ม กางเต้นท์ เช่าเก้าอี้นั่ง ตัวละ 100 บาท จำหน่ายเหล้าเบียร์ ตลอดงาน
รวมทั้งมีการแอบลักลอบจุดบั้งไฟขนาดท่อ 5 นิ้ว และมีรายการคิวจุดทั้งวัน จำนวน 20 บั้ง นอกจากนี้ยังพบว่ามีเล่นแอบลักลอบการพนัน โดยการจับเวลาบั้งไฟขึ้นลง อย่างโจ๋งครึ่ม โดยไม่แคร์สายตาเจ้าหน้าที่บ้านเมือง และไม่เกรงกลัวกฎหมาย พร้อมทั้งมีการประกาศห้ามถ่ายภาพและวีดีโอเป็นระยะ โดยมีผู้เข้าร่วมงานคนหนึ่งระบุว่า มีนักการเมืองระดับชาติหนุนหลัง ไม่ต้องกลัวอะไร คาดว่าเงินสะพัดนับ 10 ล้านบาท จึงเกิดกระแสการวิพากษ์วิจารย์กันอย่างกว้างขวาง เกี่ยวเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามสำหรับ งานประเพณีบุญบั้งไฟ ในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 133 ตอนพิเศษ 232 ง เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 59 โดยเนื้อหาสำคัญตามประกาศดังกล่าวระบุให้จัดได้ตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ถึงวันแรม 15 ค่ำ เดือน 6 เท่านั้น พร้อมกำหนดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของบั้งไฟ ต้องไม่เกิน 3 นิ้ว และจุดได้ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น. วันละไม่เกิน 12 บั้ง ทั้งนี้เพื่อป้องกันอันตรายและป้องกันการมั่วสุมลักลอบเล่นการพนันอีกด้วย หากฝ่าฝืนนอกเหนือจากประกาศคำสั่งดังกล่าวนี้ อาจได้รับโทษตามกฎหมาย
ชาวบ้านจึงอยากวอนขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน